เกาหลีใต้แชมป์เน็ตเร็วที่สุดในโลก-ไทยต่ำกว่าเกณฑ์

จากผลการศึกษาเผยเกาหลีมีความเร็วดาวน์โหลดอินเทอร์เน็ตเร็วสุดในโลกแซงหน้าประเทศที่พัฒนาแล้ว ขณะที่ไทยต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานผลการศึกษาความเร็วอินเทอร์เน็ตในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยการสำรวจของแพนโด เน็ตเวิร์กส์ บริษัทผู้ให้บริการด้านเน็ตเวิร์คในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสำรวจจากฐานการดาวน์โหลด 27 ล้านครั้ง ของคอมพิวเตอร์ 20 ล้านเครื่อง ใน 224 ประเทศตั้งแต่เดือน มกราคม-มิถุนายน ปี 2554โดยพบว่า ค่าเฉลี่ยของความเร็วในการดาวน์โหลดของอินเทอร์เน็ตทั่วโลกอยู่ที่ 580 กิโลไบต์/วินาที ซึ่งการจัดอันดับประเทศที่มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงที่สุด มีดังนี้

อันดับ 1 เกาหลีใต้ ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 2,202 กิโลไบต์/วินาที เกาหลีใต้แชมป์เน็ตเร็วที่สุดในโลก-ไทยต่ำกว่าเกณฑ์  Shokเกาหลีใต้แชมป์เน็ตเร็วที่สุดในโลก-ไทยต่ำกว่าเกณฑ์  Shok

อันดับ 2 โรมาเนีย ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 1,909 กิโลไบต์/วินาที

อันดับ 3 บัลแกเรีย ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 1,611 กิโลไบต์/วินาที

อันดับ 4 ลิทัวเนีย ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 1,462 กิโลไบต์/วินาที

อันดับ 5 ลัตเวีย ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 1,377 กิโลไบต์/วินาที

อันดับ 6 ญี่ปุ่น ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 1,364 กิโลไบต์/วินาที

อันดับ 7 สวีเดน ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 1,234 กิโลไบต์/วินาที

อันดับ 8 ยูเครน ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 1,190 กิโลไบต์/วินาที

อันดับ 9 เดนมาร์ก ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 1,020 กิโลไบต์/วินาที

อันดับ 10 ฮ่องกง ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 992 กิโลไบต์/วินาที

ทั้งนี้ โรเบิร์ต เลวิตัน ประธานบริหารของแพนโด ระบุว่า จากผลสำรวจดังกล่าวเป็นที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง เนื่องจากประเทศหลัก ๆ ที่มีความก้าวหน้าในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน แคนาดา กลับไม่ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศที่มีความเร็วสูงสุดในการดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งค่าเฉลี่ยของประเทศกลุ่มดังกล่าว มีดังนี้

สหรัฐอเมริกา ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 606 กิโลไบต์/วินาที
ฝรั่งเศส ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 604 กิโลไบต์/วินาที
สหราชอาณาจักร ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 599 กิโลไบต์/วินาที
แคนาดา ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 579 กิโลไบต์/วินาที
จีน ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 245 กิโลไบต์/วินาที

ขณะที่ประเทศไทยมีความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลดที่ 268 กิโลไบต์/วินาที ซึ่งต่ำกว่าค่าความเร็วเฉลี่ยทั่วโลก ส่วนประเทศที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตต่ำสุด คือ คองโก มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 13 กิโลไบต์/วินาที, แอฟริกากลางมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 14 กิโลไบต์/วินาที และโคโมรอส 23 กิโลไบต์/วินาที

5 เหตุผลเกาหลีเน็ตเร็วที่สุดในโลก

เหตุใดประเทศเกาหลีใต้จึงมีระบบอินเทอร์เน็ตที่เร็วที่สุดในโลก ทั้ง ๆ ที่สหรัฐอเมริกาเป็นผู้คิดค้นประดิษฐ์ระบบอินเทอร์เน็ตในโลก
มีการเปรียบเทียบว่าความเร็วบรอดแบรนด์ของสหรัฐอเมริกาเป็นแค่หนึ่งในสี่ของเกาหลี และค่าบริการแพงกว่าคือ อเมริกา 1,500 บาทต่อเดือน ส่วนเกาหลี 970 บาทต่อเดือน

มีการวิเคราะห์พบเหตุผล 5 ประการ ดังนี้คือ

1) เกาหลีมีการแข่งขันทางธุรกิจสูงมาก มีบริษัทที่ให้บริการบรอดแบรนด์ จำนวนมากแข่งขันเพื่อแย่งลูกค้า

2) วัฒนธรรมและการเมือง ประชาชนพลเมืองเกาหลีนิยมใช้อินเทอร์เน็ตสูงมาก มากกว่า 94% คือ ทั้งเด็กอายุน้อย ๆ จนกระทั่งแก่มาก ๆ แต่สหรัฐอเมริกามีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 65% นอกจากนี้รัฐบาลเกาหลียังมีการส่งเสริมให้ประชาชนใช้อินเทอร์เน็ตในราคาถูก เช่น แม่บ้านสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ราคาถูกแถมมีโปรแกรมการเรียนการสอนให้แม่บ้านด้วย โดยเฉพาะประชาชนคนเกาหลีให้คุณค่าเรื่องการศึกษาสูงที่สุดและรัฐบาลก็ส่งเสริมให้ประชาชนตื่นตัว เรื่องการเรียนรู้ตลอดเวลา ส่วนสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเป็นกฎหมายชอบฟ้องร้องคดี

3) เครือข่ายเปิด คือ เกาหลี ญี่ปุ่นและประเทศยุโรป นิยมใช้เครือข่ายร่วมกัน ทำให้เครือข่ายพื้นฐาน ราคาไม่แพง แต่สหรัฐอเมริกาเครือข่ายถนนหนทางอินเทอร์เน็ตมักจะของใครของเขาไม่แบ่งกันใช้

4) ความหนาแน่นของประชากรในเกาหลีนับว่าสูงมากคือ ประมาณ 470 คนต่อตารางกิโลเมตร ส่วนสหรัฐอเมริกาแค่ 34 คน ต่อตารางกิโลเมตร จึงทำให้การสร้างเครือข่ายพื้นฐานทางโทรคมนาคมของเกาหลีมีราคาถูกกว่ามาก ส่วนสหรัฐอเมริกามีพื้นที่กว้างใหญ่โตมาก

5) เกาหลีมีแผนเรื่องไฮเทคมานาน โดยเฉพาะตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา ประเทศเกาหลีได้ตั้งเป้าที่จะให้ประชากรมีความรู้ด้านอินเทอร์เน็ตและไอที โดยมีแผนการที่ชัดเจนรองรับและมีการปฏิบัติที่เป็นไปตามแผนจึงทำให้เกาหลีมีความก้าวหน้ากว่าสหรัฐอเมริกาถึง 5 ปี โดยเฉพาะเรื่องนโย บายบรอดแบรนด์ ฟารีสซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายบรอดแบรนด์ได้กล่าวว่า เกาหลีมีนโยบายที่ชัดเจนมากเพื่อนำสู่ความเร็วด้านบรอดแบรนด์ และรัฐบาลก็ให้การสนับสนุน อย่างเต็มที่ด้านงบประมาณ

ส่วนรัฐบาลสหรัฐมักจะให้ภาคเอกชนทำกันเองมากกว่า และช่วยเหลือด้านงบประมาณเพื่อนโยบายนี้ไม่มากนัก เมื่อเทียบเป็นเงินต่อหัวของประชากรถือว่าน้อยกว่าเกาหลีมาก

อ่านเพิ่มเติมที่นี้ http://y29.wikidot.com/5

credit http://hilight.kapook.com/view/63089
Post By : Boss11330./

ของแถม : มีบางคนในฝ่ายค้านเสนอให้ปิด Google Youtube Facebook เพื่อให้ประเทศเราเป็นแบบจีน ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่า เพราะต่อให้ไม่มี สื่อ 3 อย่างนี่ยังไงมันก็ต้องมีคนคิดไม่ดีหาช่องทางอื่นอยู่ดี ถ้าจะป้องกันการหมิ่นทางอินเตอร์เน็ต ผมว่าประเทศไทยคงได้เลิกใช้อินเตอร์เน็ตกันหล่ะครับ กลับไปใช้จดหมายแทน หุ หุ